นายกรัฐมนตรี เนปาล เผย ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหว พุ่ง 5,057 ราย บาดเจ็บกว่า 9,000 ราย คาดมีผู้เสียชีวิตเกิน 10,000 ราย รัฐบาลประกาศไว้ทุกข์ 3 วัน ขณะที่ เครื่องบิน C-130 นำนักท่องเที่ยว 64 คนถึงไทย
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงาน ว่า นายกรัฐมนตรีซูชิล คอยราล่า ของเนปาล เปิดเผยกับสำนักข่าวต่างประเทศ ว่า สำหรับยอดผู้เสียชีวิตที่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการออกมาแล้วนั้น จนถึงช่วงค่ำวันอังคาร เฉพาะในเนปาลประเทศเดียวยอดอยู่ที่ 5,057 คน ในจำนวนนี้เป็นนักปีนเขา 18 คน ที่ถูกหิมะถล่มบนเอเวอเรสต์ ขณะที่นักปีนเขาที่รอดชีวิตนั้น ได้รับการอพยพด้วยเฮลิคอปเตอร์ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 9,000 รายแล้ว และยอมรับว่า ยอดผู้เสียชีวิตอาจเกิน 10,000 ราย เพราะเริ่มมีการพบศพผู้เสียชีวิตในพื้นที่อันห่างไกลมากขึ้น หลังจากที่ติดต่อพื้นที่เหล่านี้ไม่ได้ในช่วงวันที่เกิดเหตุแรกๆ เพราะเข้าถึงลำบาก แต่พอเจ้าหน้าที่เริ่มเดินทางถึงพื้นที่ห่างไกลเหล่านี้ ได้เริ่มพบศพผู้เสียชีวิตมากขึ้น เพราะหลายหมู่บ้านพังราบ โดย นายกรัฐมนตรี เนปาล เรียกร้องให้นานาชาติเร่งเข้าช่วยเหลือทุกๆด้าน และยังกล่าวย้ำว่า รัฐบาลเนปาล กำลังดำเนินการทุกวิถีทาง เพื่อให้ความช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชนอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเพิ่มขึ้นกว่า 8,000 ราย ผู้ประสบภัยที่รอดชีวิตจากแผ่นดินไหวต่างไม่กล้าที่จะกลับเข้าบ้านเรือนของตัวเอง พากันพักอาศัยกันอยู่ตามพื้นที่โล่งในเมือง ท่ามกลางการขาดแคลนทั้ง น้ำ อาหาร และ ไฟฟ้า รวมถึงโรคระบาดที่อาจตามมาหลังจากนี้
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเนปาล ประกาศให้ทั่วประเทศไว้อาลัยแก่เหยื่อผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ เป็นเวลา 3 วัน ให้แก่ชาวเนปาลและพี่น้อง ผู้สูงอายุ และเด็กๆ ชาวต่างชาติ ผู้เสียชีวิตจากการทำลายล้างของแผ่นดินไหวครั้งนี้ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย.นี้
คนไทย64คนในเนปาลชุดแรกเดินทางถึงไทย
คนไทยจำนวน 64 คน เดินทางกลับจากกรุงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล ด้วยเครื่องบิน C-130 แล้ว รวมทั้งคณะผู้แสวงบุญชาวนครศรีธรรมราชและผู้โดยสารที่ตกค้างจากสายการบิน TG 320 ที่เลื่อนเที่ยวบินอย่างไม่มีกำหนดเมื่อวานนี้ ท่ามกลางญาติพี่น้องที่มารอรับด้วยความดีใจ
ทันทีที่เครื่องบิน C-130 ของกองทัพอากาศลงจอดเมื่อเวลา 02.30 น. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 นักท่องเที่ยวชาวไทยทั้ง 64 คนที่เดินทางกลับจากประเทศเนปาล มีใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและความดีใจที่ได้กลับประเทศไทยโดยปลอดภัย หลังต้องพบกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ประเทศเนปาล ท่ามกลางครอบครัวที่มารอรับด้วยความยินดี โดยผู้ที่เดินทางกลับมากลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวและผู้โดยสารที่ไม่สามารถเดินทางกลับมากับเที่ยวบิน TG 320 ได้เมื่อวานนี้ เนื่องจากการจราจรทางอากาศที่หนาแน่นจนเครื่องบินไม่สามารถเอาเครื่องลงจอดได้ รวมทั้งคณะผู้แสวงบุญชาวนครศรีธรรมราชทั้ง 32 คน โดยหลังจาก C-130 เสร็จสิ้นภารกิจส่งชุดช่วยเหลือทางการแพทย์และสิ่งของช่วยเหลือ กองทัพไทยได้ประสานไปยังสถานทูตไทย ณ กรุงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล เพื่อนำคนไทยที่ตกค้างและประสงค์กลับบ้านเดินทางกลับประเทศไทย
ด้าน พล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ ระบุว่า ขณะนี้ยังคงมีชาวไทยตกค้างอยู่อีกจำนวนหนึ่งที่ประเทศเนปาล และบางส่วนคาดว่าจะเดินทางกลับมาด้วยสายการบินพาณิชย์ โดยเวลา 08.00 น.วันพรุ่งนี้ เครื่องบิน C-130 จำนวน 2 ลำ พร้อมด้วยสิ่งของช่วยเหลือจะเดินทางไปยังประเทศเนปาลอีกครั้ง พร้อมจะประสานงานกับสถานทูตไทยในเนปาล เพื่อรับคนไทยตกค้างที่ประสงค์จะกลับบ้านเดินทางกลับประเทศต่อไป
ดินไหวเอกวาดอร์ 5.8 ปชช.แตกตื่น-ยังไม่มีเสียหาย
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงวัดได้ 5.8 ตามมาตราริกเตอร์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศเอกวาดอร์ เมื่อเวลาประมาณ 06.20 น. เช้าวันอังคารที่ 28 เม.ย.ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับ 18.20 น.วันเดียวกันตามเวลาในประเทศไทย โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ลึกลงไปใต้ดิน 71 กม. และอยู่ในพื้นที่ของเมืองกวยยากิล จังหวัดกัวยาส ทำให้ประชาชนแตกตื่นและแรงสั่นสะเทือนก็รับรู้ได้ในจังหวัดใกล้เคียง
เจ้าหน้าที่กู้ภัยฉุกเฉินของเอกวาดอร์ เปิดเผยว่า ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตแต่อย่างใด
ดินไหวทำชาวเนปาล8ล้านคนได้รับผลกระทบ
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า สำนักงานผู้ประสานงานสหประชาชาติ ประจำเนปาล ระบุ มีชาวเนปาลกว่า 8 ล้านคน ที่ต้องอยู่ในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายรุนแรงจากแผ่นดินไหว ขณะที่ทีมกู้ภัยและเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์พยายามเข้าช่วยเหลือผู้คนที่อยู่ในแถบภูเขา ซึ่งอยู่ใกล้กับศูนย์กลางของแผ่นดินไหว และถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ทำให้ทางการต้องใช้เฮลิคอปเตอร์ไปหย่อนสิ่งของบรรเทาทุกข์ให้กับผู้ประสบภัย และมีอีกหลายพื้นที่ที่ทีมกู้ภัยยังเข้าไม่ถึง
ด้าน นานาชาติต่างพยายามส่งความช่วยหลือให้กับเนปาลอย่างเต็มที่ แต่เครื่องบินที่บรรทุกสิ่งของบรรเทาทุกข์ไม่สามารถลงจอดที่สนามบินกรุงกาฐมาณฑุได้อย่างสะดวก เนื่องจากการจราจรทางอากาศที่คับคั่ง เพราะมีเพียงสนามบินเดียว อย่างไรก็ตาม นานาชาติไม่ต่ำกว่า 16 ประเทศ ได้ทยอยส่งความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยในเนปาลอย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปเงินช่วยเหลือ สิ่งของบรรเทาทุกข์ ทีมเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และหน่วยกู้ภัย แต่ก็ประสบปัญหาติดค้างอยู่ที่สนามบินจำนวนมาก ขณะที่ ประชาชนในกรุงกาฐมาณฑุ และพื้นที่ประสบภัย ต้องอาศัยหลับนอนภายในเต็นท์ที่พักชั่วคราว ริมถนน และตามสวนสาธารณะ หลังบ้านเรือนพังเสียหาย และมีรายงานการเกิดอาฟเตอร์ช็อก หรือแรงสั่นสะเทือนตามมาอีกหลายครั้ง
ทั้งนี้ มีประชาชนบางส่วนแสดงความไม่พอใจรัฐบาลที่เข้าช่วยเหลือประชาชนล่าช้า และยังไม่สามารถบริหารจัดการสิ่งของบรรเทาทุกข์แก่ประชาชนได้เต็มที่ ส่งผลให้มีผู้คนจำนวนมากแห่กักตุนสินค้าอุปโภคและบริโภค หลังเกิดภาวะขาดแคลนน้ำดื่มและอาหารอย่างหนัก
สถานทูตไทยวางแผนลำเลียงอาหารน้ำดื่มจากไทย
นายวุตติ วุตติสันต์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงกาฐมาณฑุ เปิดเผยว่า อาหารและน้ำดื่มเริ่มขาดแคลนอย่างมากในตอนนี้ ทำให้เริ่มเกิดการกักตุนน้ำอาหารกันมากขึ้น ส่วนทางสถานทูตได้มีการวางแผนในการลำเลียงมาจากไทย ส่วนไฟฟ้านั้นสามารถใช้ในสถานที่ขนาดใหญ่ รวมถึงโรงแรม 5 ดาวที่มีเครื่องปั่นไฟเท่านั้น ขณะที่ที่พักขนาดเล็กไม่สามารถใช้ไฟฟ้าได้ รวมทั้งขาดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก
ทั้งนี้ ขณะที่สภาพอากาศในเนปาลเริ่มแปรปรวน ทั้งมีฝนตกจนทำให้เป็นอุปสรรคต่อการเดินทางพอสมควร ส่วนกลางคืนอากาศหนาวเย็น ต่ำกว่า 20 องศา แต่อีก 2-3 วันนี้ อุณหภูมิจะร้อนขึ้นมากในช่วงเวลากลางวัน แต่กลางคืนอากาศจะเย็นลง ทำให้ประชาชนอาจปรับสภาพอากาศไม่ทัน เพราะที่พักมีแต่นอนภายในเต็นท์ขนาดใหญ่ ขาดแคลนเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม ไฟฟ้า ยารักษาโรค ส่วนการทำงานของหน่วยกู้ภัยโดยเฉพาะกู้ภัยชาวญี่ปุ่นได้ออกปฏิบัติหน้าที่ทันทีที่มาถึง เช่นเดียวกับสื่อมวลชนของไทย
สถานทูตไทยวางแผนลำเลียงอาหารน้ำดื่มจากไทย
นายวุตติ วุตติสันต์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงกาฐมาณฑุ เปิดเผยว่า อาหารและน้ำดื่มเริ่มขาดแคลนอย่างมากในตอนนี้ ทำให้เริ่มเกิดการกักตุนน้ำอาหารกันมากขึ้น ส่วนทางสถานทูตได้มีการวางแผนในการลำเลียงมาจากไทย ส่วนไฟฟ้านั้นสามารถใช้ในสถานที่ขนาดใหญ่ รวมถึงโรงแรม 5 ดาวที่มีเครื่องปั่นไฟเท่านั้น ขณะที่ที่พักขนาดเล็กไม่สามารถใช้ไฟฟ้าได้ รวมทั้งขาดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก
ทั้งนี้ ขณะที่สภาพอากาศในเนปาลเริ่มแปรปรวน ทั้งมีฝนตกจนทำให้เป็นอุปสรรคต่อการเดินทางพอสมควร ส่วนกลางคืนอากาศหนาวเย็น ต่ำกว่า 20 องศา แต่อีก 2-3 วันนี้ อุณหภูมิจะร้อนขึ้นมากในช่วงเวลากลางวัน แต่กลางคืนอากาศจะเย็นลง ทำให้ประชาชนอาจปรับสภาพอากาศไม่ทัน เพราะที่พักมีแต่นอนภายในเต็นท์ขนาดใหญ่ ขาดแคลนเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม ไฟฟ้า ยารักษาโรค ส่วนการทำงานของหน่วยกู้ภัยโดยเฉพาะกู้ภัยชาวญี่ปุ่นได้ออกปฏิบัติหน้าที่ทันทีที่มาถึง เช่นเดียวกับสื่อมวลชนของไทย
ข้อมูลจาก: news.sanook.com
Comments :
0 comments to “ดินไหวเนปาลตายทะลุ5พัน-64นักท่องเที่ยวถึงไทย”
Post a Comment